รีวิว ฟิลิปปินส์ เฟิร์สไทม์ 4 วัน 3 คืน เที่ยวตามง่าย งบไม่บานปลาย ลางานวันเดียวเอาอยู่
ด้วยความที่อยากรู้จักและไปสัมผัสฟิลิปปินส์ กับตาตัวเองสักครั้ง ทริปนี้เราจึงลุยกันเน้นๆ ที่เมืองหลวงซึ่งเต็มไปด้วยร่องรอยทางประวัติศาสตร์ ของประเทศอย่างกรุงมะนิลา เพราะแต่เดิมก่อนมา เราก็นึกภาพไม่ออกเลยจริงๆ ว่ามะนิลาบรรยากาศ เป็นอย่างไร พอไปถึงที่ ก็ถึงได้รู้ว่าเป็นเมืองหลวง ที่คึกคักไม่แพ้กรุงเทพฯ เลย มีการผสมผสานกัน
ระหว่างย่านเมืองเก่า และย่านเมืองใหม่ที่ติดกับมะนิลา อย่างเมือง Makati ซึ่งเราพักที่ย่านนี้ด้วย เป็นย่านที่เรียกได้ว่า ใหม่ล้ำ หรูหราอู้ฟู่สุดๆ เพราะเป็นแหล่งรวมห้างใหญ่ๆ โรงแรม 4 – 5 ดาว ตึกสำนักงาน ไร้เสาไฟบนดิน สำหรับใครที่กลัว ว่ามะนิลาจะปลอดภัยมั้ย เราแนะนำให้มาพักย่านนี้เหมือนกันกับเรา รับรองปลอดภัยหายห่วง เพราะเรียกได้ว่าเป็นย่านที่เป็นหน้าเป็นตา สำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวของประเทศฟิลิปปินส์เลยก็ว่าได้
นอกจากตัวเมืองแล้ว เราก็มีแวบไปสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ ใกล้ๆ เมืองหลวง 1 วัน ที่เมือง Tagaytay เมืองทางตอนใต้ของมะนิลา ไปชื่นชมความอลังการของธรรมชาติอย่าง ภูเขาไฟ Taal ภูเขาไฟที่ยังมีชีวิตอยู่ของฟิลิปปินส์ใครชื่นชอบบรรยากาศธรรมชาติ อากาศดีๆ มาเมืองนี้ฟินแน่นอน อากาศเย็นสบายสุดๆ
บอกเลยว่าทริปนี้ใครอยากตามรอยคือสบายสุดๆ เที่ยวง่าย ไม่ต้องแพลนนาน บินตรงมากับการบินไทย ได้เลยชิลๆ 3 ชั่วโมงถึง เหมาะสำหรับคนที่ กำลังมองหาทริปเปิดโลกเป็นอย่างยิ่ง และบอกเลยว่า ฟิลิปปินส์ คืออีกหนึ่งประเทศที่น่าเพิ่มลงไปในลิสต์

ทริปนี้เราออกเดินทางจากกรุงเทพ บินตรง สู่มะนิลา ด้วยการบินไทย มีบินตรงทุกวัน วันละ 2 ไฟลท์
ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมงถึง ก็ต้องบอกเลยว่าสบายมาก ด้วยที่นั่งแบบ Preferred Seat ที่ให้เราเหยียดขาได้สุดไม่ต้องทนเมื่อย เพิ่มเงินอีกนิดหน่อยแลกกับความสบายตลอดไฟลท์ เราว่าคุ้ม จองก็ง่ายผ่าน ได้เลยที่ www.thaiairways.com ชิลสุดๆ เผลอแปปเดียวเครื่องก็แลนด์ดิ้งที่มะนิลาแล้ว

Day 1 : วันแรกของทริปเราเริ่มไปกับการสำรวจกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ โดยเริ่มกันที่ย่านเมืองเก่าและย่านประวัติศาสตร์ ที่แรก Rizal Park ที่ตั้งอนุสาวรีย์ของ โฮเซ ริซัล (Jose Rizal) วีรบุรุษคนสำคัญของประวัติศาสตร์ชนชาติฟิลิปปินส์ เขาคือผู้นำในการปลดแอกฟิลิปปินส์จากการเป็นเมืองขึ้นของสเปนในช่วงปี ค.ศ.1896-1898

ไม่ไกลกัน อีกหนึ่งสถานที่ประวัติศาสตร์ที่สำคัญของฟิลิปปินส์ Fort Santiago (ป้อมซานติเอโก) สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.1571 นับเป็นป้อมปราการของสเปนที่เก่าแก่ที่สุดในฟิลิปินส์ ป้อมแห่งนี้ถูกทำลายจากการโจมตีของกองทัพสหรัฐ ภายหลังได้รับกรบูรณะซ่อมแซมเพื่อให้เป็น
“ปูชนียสถานแห่งเสรีภาพ ” (Shrine of Freedom)
และพื้นที่แห่งนี้ยังถูกใช้เป็นที่คุมขังวีรบุรุษ โฮเซ ริซัล (Jose Rizal) ก่อนถูกนำตัวไปประหารชีวิตอีกด้วย โดยภายในจะมีที่จัดแสดงข้อมูล ทางประวัติศาสตร์สำคัญของสถานที่แห่งนี้ ให้เราทุกคนสามารถศึกษาได้ระหว่างเดินเที่ยวชม

Intramuros wall กำแพงเมืองแห่งประวัติศาสตร์ ซึ่งด้านนี้จะเป็นด้านหน้าของทางเข้าไปยังป้อมซานติเอโก

จาก Fort Santiago เราเลือกนั่งรถม้าที่มาจอดรอนักท่องเที่ยว อยู่ด้านหน้า เพื่อค่อยๆ ชื่นชมทัศนียภาพของผู้คน
และบ้านเมืองในย่านเมืองเก่า โดยจุดหมายปลายทางของเราจะอยู่ที่โบสถ์ออกัสติน (San Agustin Church & Monastery)

โบสถ์ออกัสติน (San Agustin Church & Monastery)
เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่และงดงามที่สุดแห่งหนึ่งในฟิลิปปินส์ คนฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ โบสถ์จึงมีความ
สำคัญและเป็นที่พึ่งทางใจของคนที่นี่ มีอายุหลายร้อยปี สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1599 ภายในเราจะได้รับชมความงดงาม ที่สุดอลังการของสถาปัตยกรรมแบบสเปน เพราะที่นี่ได้รับอิทธิพล ในช่วงที่เป็นเมืองขึ้น ปัจจุบันนอกจากเป็นสถานที่ประกอบพิธีการ สำคัญต่างๆ ทางศาสนาแล้ว ยังถูกเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่รวบเรื่องราวต่างๆ ทางวัฒนธรรมไว้อีกด้วย

ไม่ต้องไปไกลถึงยุโรป ก็มีโอกาสได้สัมผัสโบสถ์และความงดงาม ในรูปแบบเดียวกัน ไกด์บอกกับเราว่าคนฟิลิปปินส์นิยมมาแต่งงาน กันที่โบสถ์นี้เป็นจำนวนมาก ก็สวยหมดจดขนาดนี้อะเนอะ โรแมนติคสุดๆ

ฝั่งตรงข้ามโบสถ์ เป็นย่านที่ชื่อว่า Casa Manila and Barrio San Luis เหมาะสำหรับมาพักเดินชิล พักผ่อนเบาๆ ท่ามกลางบรรยากาศ Old Town เพราะเป็นแหล่งร้านค้า โรงแรม ร้านอาหารมากมาย ภายในโซนกำแพงเมือง Intramuros

รถ Jeepney พาหนะสุดคลาสสิก คู่ใจคนฟิลิปปินส์ คือโลโก้ของกรุงมะนิลาเลยก็ว่าได้ เปรียบเทียบง่ายๆ ก็เหมือนกับตุ๊กตุ๊กของกรุงเทพบ้านเรา

Day 2 : หันไปดื่มด่ำความงดงามของธรรมชาติกันมาก เราตื่นแต่เช้าเดินทางไปยังเมือง Tagaytay เมืองทางตอน ใต้ของกรุงมะนิลา เรามาที่นี่เพื่อมาชมวิวภูเขาไฟที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือยังไม่ดับสนิทนั่นเอง ภูเขาไฟ Taal ( ตาอัล)

ธรรมชาติสร้างสรรค์สิ่งที่งดงามเสมอ ภูเขาไฟ Taal (ตาอัล) ตั้งเด่นอยู่กลางทะเลสาบตาอัล ใครสายธรรมชาติไม่ควรพลาด อากาศดี เย็นสบาย วิวอลังการ คุ้มค่าที่จะมาแน่นอน


ลงมาจากจุดชมวิวภูเขาไฟ Taal ไม่ไกลกันเราแวะทานเข้าที่ร้านอาหาร Sonya’s Garden ร้านอาหารออร์แกนิกส์
กลางสวนและมวลหมู่ไม้ บรรยากาศสดชื่น วัตถุดิบสดใหม่ ทำให้มื้อกลางวันที่นี่นั้นสดชื่นมาก เพราะวันนั้นฝนก็เพิ่งตกไปตอนเช้าด้วย

อาหารสไตล์ยุโรป สลัด ขนมปัง ผักสดๆ กรอบๆ น้ำผลไม้สดๆ ครบเพื่อสุขภาพ ที่นี่ยังมีบริการเยี่ยมชมพืชผัก แปลงสวนดอกไม้ ฟรีๆ อีกด้วยนะ

Day 3 : วิวจากห้องพักบนโรงแรมดุสิตธานี ย่าน Makati

วันนี้จะเป็นวันที่เรามาเที่ยวย่านเมืองใหม่ของฟิลิปปินส์กัน (Metropolitan Manila) บรรยากาศของย่านนี้ก็เรียกได้ว่า เมืองใหม่สมชื่อจริงๆ ถนนหนทาง ตึกรามบ้านช่อง ความหรูหรา คือคนละเรื่องกับย่าน Old Town เลย

ที่เห็นสวนสวยๆ หญ้าเขียวขจีเนียนกริ๊บแบบนี้ สถานที่นี่คือ Manila American Cemetery สุสานและอนุสรณ์สถานทหารอเมริกันประจำกรุงมะนิลา สร้างขึ้นเพื่อให้วีรบุรุษสงครามของฟิลิปปินส์ที่เสียชีวิต
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พื้นที่คือใหญ่และอลังการมาก พร้อมการจัดการที่ดีมาก

บรรยากาศที่นี่คือสงบเงียบ สบายตา เป็นเหมือนสวนขนาดใหญ่ ที่ชิลเหลือเกิน บริเวณนี้จะเป็นกำแพงที่สลักชื่อวีรบุรุษ ดีไซน์ออกมาได้งดงาม ท่ามกลางความร่มรื่น

มุมนี้คืองามและเท่สุดๆ ใครกลัวว่าฟิลิปปินส์ไม่ชิค มาที่นี่เลยจ้า มุมชิคๆ เพียบเลย

สุสานแห่งนี้จะอยู่บริเวณโซนที่เรียกว่า Fort Bonifacio เป็นเมืองที่กำลังสร้างขึ้นใหม่ ตึกแถวนี้จึงมีดีไซน์ที่จัดจ้าน
สัมผัสได้ถึงความหรูหรา ถนนสะอาดตา แทบไม่เห็นขยะเลย



ระหว่างที่เรากินข้าวกันอยู่ การแสดงโชว์ก็จะหมุนเวียนเปลี่ยนมาเรื่อยๆ เซอร์ไพรส์ในพลังเสียงของคนฟิลิปปินส์จริงๆ ว่า คนที่นี่เขาร้องเพลงเพราะระดับดีว่าดีโว่ กันได้ทุกคน เลยหรือไง เสียงดีมาก และแต่ละคนคือ ไม่ใช่นักร้องอาชีพด้วย ยอมใจจริงๆ

Day 4 : เช้าวันสุดท้ายก่อนกลับ เราแวะไปเที่ยวที่ Lakbay Museo เป็น Interactive Museum ที่บอกเล่าเรื่องราวเอกลักษณ์และตัวตนของผู้คน และประเทศฟิลิปปินส์ ข้างในได้รวบรวมวัฒนธรรม ดั้งเดิมของคนพื้นเมืองชาวฟิลิปปินส์จากภาคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ชีวิตความเป็นอยู่ อาหารการกิน ศิลปะวัฒนธรรม การเต้นรำ โดยจะแบ่งเป็นฐานๆ ให้เราค่อยๆ ซึมซับบรรยากาศแต่ละจุด เรียกได้ว่า เข้าไปแล้วคึกคักแน่นอน เพราะคนที่นี่เขาชอบ ร้องเล่นเต้นรำกันสุดๆ


ไฟลท์ขากลับกรุงเทพฯ ก็ไม่พลาดจองที่นั่ง Preferred Seat ง่ายๆ ผ่าน Application Thai Airways ยืดขาให้สุดเหยียด พร้อมทานมื้ออาหารไทยที่คิดถึง รสชาติถูกปาก อร่อยถูกใจเหมือนเดิม บอกเลยว่าใครๆ ก็สามารถซื้อบริการตรงนี้เพิ่มเติมได้ในทุกๆ เที่ยวบินของการบินไทย ในราคาหลักร้อย คุ้มสุดๆ ผ่านทาง Application Thai Airways หรือ www.thaiairways.com ได้เลย

Preferred Seat กว้างสบาย ไม่มีเมื่อยตลอดไฟลท์บินตรงกับการบินไทย สบายต่างกันจริงๆ

จบแล้วสำหรับทริปฟิลิปปินส์ 4 วัน 3 คืน ก็ต้องบอกเลยว่า
ประเทศนี้ต้องมาเห็นด้วยตัวเอง กับตาจริงๆ ไม่อย่างนั้นก็นึกไม่ออกอยู่ดี ว่าเป็นอย่างไร หลายคนบอกน่ากลัว
เราว่าย่านที่น่ากลัวก็ต้องเลี่ยง ไม่เอาตัวเองไปเสี่ยง แต่ย่านที่ดีงาม หรือเจริญของที่นี่ก็ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว
บรรยากาศบ้านเมือง รวมถึงสภาพอากาศก็คล้ายกรุงเทพสุดๆ
พูดง่ายๆ คือร้อนนั่นเอง ชั่วโมงเร่งด่วนนี่รถติดเหมือนกรุงเทพเด๊ะ แต่ประเด็นคือสำหรับชาวต่างชาติเที่ยวง่ายไม่ยาก เพราะทุกคนที่นี่ กว่า 90% พูดภาษาอังกฤษได้หมดเก๋ตรงนี้ อยากไปที่อากาศเย็นๆ ก็ไปเมืองตากอากาศอย่าง Tagaytay ได้เลยไม่ไกลกัน บรรยากาศดีงาม ธรรมชาติน่ายล อากาศสดชื่นเย็นสบาย สรุปแล้วเราว่า
ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่น่าค้นหา มีหลายสิ่งหลายอย่างค่อนข้าง เซอร์ไพรส์ ถ้าใครยังไม่เคยมา การมาที่นี่สักครั้งก็เป็นประสบการณ์ ที่ดีในฐานะนักเดินทางคนหนึ่งที่อยากเผชิญโลกกว้างแน่นอน ลองแพลนทริป และหาเพื่อนร่วมทางรู้ใจมาด้วยกัน เธอก็จะเที่ยว ประเทศนี้ได้มันส์ยิ่งขึ้นเชื่อเรา

รีวิว ฟิลิปปินส์ พร้อมแพลนท่องเที่ยว เช่นเคยเราเตรียมมาให้เหมือนเดิม เซฟไปได้เลยจ้าา ใบเดียวรู้เลยว่าต้องไปไหนบ้าง
