รีวิวนี้เหมาะสำหรับคนเคยไปเที่ยวกาญจน์มาแล้วหลายครั้ง แถมมีเวลาน้อย แต่อยากไปอีก เพราะจังหวัดนี้ทั้งชิล
และธรรมชาติเยอะ กาญจนบุรี คือหนึ่งในจังหวัดที่เราไปมาแล้วหลายครั้งเพราะติดใจธรรมชาติ ไปง่าย แถมใกล้กรุงเทพ ทำให้ Landmark ต่างๆ ฮิตๆ ส่วนใหญ่จึงไปมาครบหมดแล้ว ไหนจะสะพานข้ามแม่น้ำแควเอย น้ำตกเอราวัณ สังขละบุรีเอย
เมืองกาญจน์รอบนี้ เราเลยตั้งใจไปนอนพักชิลๆ ริมแม่น้ำแควในตัวเมืองช่วงเสาร์ – อาทิตย์ แล้วเที่ยวรอบๆ แบบที่ขับรถไม่นาน จึงลองเสิร์ชหาที่เที่ยว ที่กิน รวมไปถึงคาเฟ่น่าไป ที่ยังไม่เคยไป โดยมีข้อแม้ว่า ต้องบรรยากาศดี
เหมาะแก่การไปชิล ซึ่งเมืองกาญจน์ก็ยังตอบโจทย์ เราได้อยู่ เพราะมีหลายที่ที่เจอคือยังไม่เคยไปเลย
และไม่ไกลตัวเมืองด้วย อย่างที่ ‘ทะเลน้ำจืด วัดท่าล้อ’ พอไปถึงที่นั่น คือถ่ายรูปออกมาดูไม่รู้เลยว่าเมืองกาญจน์
เพราะลง IG ไปละเพื่อนทักมาถามทันทีว่า “ที่ไหนวะ? น่าไป” เราจึงรวบรวมที่เที่ยว ที่กิน มาฝากทุกคนที่มีเวลาน้อย
แต่อยากมีเวลาพักในวิวดีๆ และเหนือสิ่งอื่นใด งบไม่บานปลายแน่นอน
ต้นจามจุรียักษ์ที่ผลิใบเขียวครึ้ม ต้อนรับความชุ่มฉ่ำในหน้าฝน พร้อมแผ่ความร่มรื่นให้กับทุกคนที่มาเยือน
บรรยาศโปร่งๆ และแสงแดดอ่อนๆ ที่เล็ดลอดผ่านใบไม้ด้านนอกของ ‘The Village Farm to Cafe’ ใครมากาญจน์ช่วงนี้ แวะมาชิลที่นี่คือ ฟินแน่นอน
ใครโหยหาวิวภูเขา ที่โอบล้อมผืนน้ำ พร้อมที่นั่งปล่อยใจให้ธรรมชาติโอบกอด มาที่ เขื่อนท่าทุ่งนาไม่ผิดหวัง สงบเงียบ บรรยากาศดีที่สำคัญคือคนไม่พลุกพล่าน
ที่แรกในทริปนี้ เราออกสตาร์ทยามเช้าตรู่ด้วย กาแฟดีๆ สักแก้ว ที่ M.A.S Stay at Cafe ร้าน Specialty Coffee ในตัวเมือง
บรรยากาศในร้านตกแต่งฟีลลิ่งลอฟท์ ดิบๆ เท่ๆ เน้น Material แอร์เย็นฉ่ำ คละคลุ้งไปด้วยกลิ่ยกาแฟหอมกรุ่น
‘Appresso’ 120.- เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน ความลงตัวของ Apple Juice + Espresso Shot ที่ขอบอกเลยว่า อร่อยมากกกกก ใครชอบกาแฟรสเข้มแต่ตัดความขมด้วยความเปรี้ยว อมหวานของน้ำแอปเปิล จะต้องติดใจเมนูนี้
หลังจากเติมความกระปรี้กระเปร่ามาเรียบร้อยเราขับรถมุ่งหน้ามาที่ ‘ทะเลน้ำจืด วัดท่าล้อ’ ใน อ.ท่าม่วง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง ต้องบอกก่อนว่าไม่เคยไปทะเลน้ำจืด มาเลยในชีวิตนี้ เพราะเป็นคนใต้บ้านมีทะเล จึงจินตนาการไม่ออกว่าหน้าตาเป็นยังไง พอไปถึงก็เซอไพรส์เหมือนกันว่า
“เฮ้ย! บรรยากาศชิลเหมือนทะเลแถวบ้านเหมือนกันว่ะ” ลมพัดแรงๆ เตียงผ้าใบเรียงราย หาดทราย และเกลียวคลื่น
ที่ถึงแม้จะคลื่นไม่ใหญ่เหมือนทะเล แต่ก็พอได้อยู่ บรรยากาศคือชิลเหมือนอยู่ทะเลจริงๆ
เด็กน้อย กับ ทะเล เป็นของคู่กัน ต่อให้ที่นี่เป็นน้ำจืด ความสนุกและรอยยิ้มของเด็ก ก็ไม่ต่างจากเด็กที่เล่นน้ำเค็มเลยแม้แต่นิด
ส่วนผู้ใหญ่น่ะเหรอ จกส้มตำ นั่งกินซีฟู๊ด ชิลๆ ไม่ต่างจากอยู่ทะเลจริงๆ เช่นเดียวกัน อยากจะบอกว่าใครอยากมา Make Profile Pic ฟีลลิ่งทะเล ที่นี่ตอบโจทย์แน่นอน ถ่ายรูปออกมาแล้วมู้ดดีเหมือนอยู่ทะเลไม่มีผิดถึงขนาด เราลงรูปไปใน IG Story เพื่อนทักมาถามว่า “ที่ไหนในกาญจน์อะ อยากไปมั่ง”
ขับรถย้อนกลับมาจาก ทะเลน้ำจืด วัดท่าล้อ ไม่ไกลกันนัก เราก็จะมาถึงอีกหนุ่งจุดที่ถ้าใคร มาเที่ยวกาญจน์ ล้วนต้องแวะมา “ต้นจามจุรียักษ์” มาถึงที่นี่ เราจะพบกับความงดงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ ไว้อย่างอลังการ กับต้นจามจุรียักษ์เก่าแก่ อายุกว่า 100 ปี ที่แผ่กิ่งก้านใบปกคลุมบริเวณด้วยความร่มรื่น
เราสามารถเดินชมความงดงามของต้นจามจุรียักษ์ บนสะพานที่สร้างล้อมลำต้นได้ บอกเลยนว่ามุมบนสะพานนี้
Photogenic สุดๆ
หน้าฝน ที่ฝนไม่ตกมันดีจริงๆ เนอะว่าป่ะ?ต้นไม้ใบหญ้าคือพร้อมจะกันเขียวสุดๆ
ตกบ่าย..ท้องเริ่มร้องเราเลยมาฝากท้องในที่ที่คาวหวานครบ มาที่เดียวคือคอมพลีทเลย กับ ‘ร้านอาหารคีรีมันตรา’ และ ‘The Village Farm to Cafe’ จากต้นจามจุรียักษ์ขับรถย้อนกลับมาทางตัวเมือง เลยขึ้นไปเส้น ถ.กาญจนบุรี – ไทรโยค ประมาณไม่เกิน 45 นาทีก็ถึง
บอกตามตรงแวบแรกคิดว่าที่นี่คือรีสอร์ตที่มีร้านอาหารด้วยซ้ำ เพราะพื้นที่ใหญ่ แบบกว้างมากกกกก แถมยังมีวิวภูเขาด้วยอีก แต่ที่ไหนได้ที่นี่เปิดเป็น ร้านอาหารและคาเฟ่ เท่านั้น ส่วนบริเวณสวนขนาดใหญ่ ที่มีฉากหลังเป็นภูเขา เราก็สามารถไปเดินเที่ยวถ่ายรูปเล่นได้เลย วิวเขียวขจีมันสดชื่นจริงๆ ได้ข่าวมาว่า ที่นี่ช่วงวันหยุดคนจะแน่นมาก เต็มแทบทุกโต๊ะ ขนาดเราคิดว่าโต๊ะที่นี่มีเยอะมากแล้วนะ แนะนำเลยว่า ใครจะมากินข้าวจองที่นั่งเอาท์ดอร์เลย ชิล!
อาหารไทยที่นี่คือเด็ด รสชาติ จัดจ้านถึงเครื่อง
กินคาวแล้ว มาต่อของหวานเติมความสดชื่นกันหน่อย เดินมาได้เลยที่คาเฟ่ข้างๆ ‘The Village Farm to Cafe’ ที่นี่เมนูเครื่องดื่ม และของหวานให้เลือกเยอะจนตาลาย เราสั่ง น้ำอัญชัญมะนาว มาทานคู่กับ วาฟเฟิลที่ท็อปหน้ามาแน่นมาก อร่อยลงตัว ดีนะว่ากระเพาะแยกระบบอาหารคาวหวานได้555
ไม่ไกลจากร้านอาหารคีรีมันตรา ขับรถขึ้นมามุ่งหน้าสู่ ถ.กาญจนบุรีศรีสวัสดิ์ เราก็จะมาถึงโลเคชันสุดท้ายสำหรับทริปนี้ ‘เขื่อนท่าทุ่งนา’ ในโครงการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ตั้งอยู่ใน ต.ช่องสะเดา อ.เมืองกาญจนบุรี เปิดให้ประชาชนทั่วไป สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ในเวลาทำการ เป็นเขื่อนที่มีภูเขาโอบล้อม ทำให้บรรยากาศที่นี่คือชิล และวิวดีมาก มานั่งปล่อยใจสูดอากาศดีๆ นั่งดูพระอาทิตย์ตกดิน หรือนั่งปิคนิค คือลงตัวสุดๆ
ใครอยากได้รูปเท่ๆ บนวิวสันขันเขื่อนเขื่อนนี้ตอบโจทย์ ไม่แพ้เขื่อนไหนๆ เช่นกัน
อีกข้อดีของเขื่อนนี้คือ เรามองว่าสงบมาก คนน้อยดี ไม่พลุกพล่าน ถ้าอากาศดีแบบแดดไม่ร้อนเกินไป
ในช่วงหน้าฝนนะ ใครอยากมาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ แบบไม่ไกลตัวเมือง ไม่ต้องไปถึงน้ำตก ที่นี่แหละตอบโจทย์สุดๆ ใครที่รู้สึกเหนื่อยจากงาน อยากหาเวลาพัก แต่ก็ดันมีเวลาน้อย บอกเลยว่าทริปเมืองกาญจน์ 1 วัน ในหน้าฝนที่เราไปมานี้ ทุกคนสามารถตามรอยได้สบาย ไปวันหยุดแค่เสาร์ – อาทิตย์ ไม่ต้องลางาน ตบตีกับ HR ให้วุ่นวาย บึ่งจากกรุงเทพพร้อมรถคู่ใจ และคนรู้ใจ เชื่อเราเหอะว่าเธอจะได้พักผ่อนสมใจแน่นอน
