รีวิว U Inchantree : ‘ฉ่ำปอด..กอดธรรมชาติ’ 2 วัน 1 คืน ในงบหลักพัน ก็เพียงพอที่ U Inchantree กาญจนบุรี

🌧️หนีหน้าฝนในกรุงเทพที่ทำให้เราทั้งเหงาท้ังเศร้า และหงุดหงิด ไปใช้ชีวิตหน้าฝนที่มองไปทางไหนก็ชุ่มชื่นหัวใจที่กาญจนบุรีกันดีกว่า บอกเลยว่า

“ทุกคนจะหลงรักความเขียวชอุ่มในหน้าฝน ของเมืองกาญจน์เหมือนเรา🌳💦”

ไม่ต้องใช้วันลา ใช้แค่วันหยุดสุดสัปดาห์ 2 วัน เสาร์ – อาทิตย์ พอเลย บึ่งรถมุ่งตรงมาที่ “U Inchantree Kanchanaburi” ที่เดียวเพอร์เฟ็กต์ เพอร์เฟ็กต์ยังไงบ้างเหรอ? ตามนี้เลยโรงแรมติดแม่น้ำแควแบบมีตลิ่งให้นั่งรอพี่ที่ท่าน้ำอะ โรงแรมร่มรื่นขั้นสุด ต้นไม้ใบหญ้าขึ้นเขียวครึ้ม พักผ่อนใน รร. ได้เต็มที่ 24  ชม.

เช็คอินตอนไหนเช็คเอาท์ตอนนั้นของอีกวันมีต้นอินจันเก่าแก่อายุ 200 ปี พร้อมความเชื่อที่ว่า สัญญารักกันใต้ต้นนี้ จะรักกันยืดยาว กินอาหารเช้าที่ไหนก็ได้ Breakfast in Bed ก็ย่อมได้ ใกล้สะพานข้ามแม่น้ำแคว แบบยืมจักรยาน รร. ได้ฟรี ปั่นไป 5 นาที ถึงเลยอะ งบหลักพัน บรรยากาศหลักแสน

ขับรถจากกรุงเทพฯ มาถึงโรงแรมเหนื่อยๆ เช็คอินปุ๊บแนะนำให้มานั่งจิบน้ำ กินข้าวกินปลา ที่ท่าน้ำเลยนะ สดชื่นหายเหนื่อยแน่นอน วิวฉ่ำตามากพูดเลย แล้วมุมนี้คือสวยแบบ เป็น IG Spot ได้สบาย

อย่างที่บอกไปว่า โรงแรมอยู่ใกล้ Landmark ทางรถไฟสายมรณะมาก ถ้าเดินคือ 5 นาที ปั่นจักรยานยิ่งไม่ถึง 5 นาที ใครมาไม่ทันรอบรถไฟวิ่งเพื่อ จะมาถ่ายรูปก็ไม่เป็นไร กลับไปพักที่โรงแรม มาใหม่ยังทัน เพราะใกล้จริงๆ

มุมศาลาพักใจริมน้ำ สำหรับแม่หญิงเจ้าค่ะ มาพักที่นี่แล้ว ห้ามพลาดมาถ่ายรูป มุมนี้เด็ดขาดเลยนะ ชมดชม้อยมาก

โซนทางเดินจาก  Lobby เข้าสู่อาคารที่พัก ใครโหยหาความเขียวจากธรรมชาติ ต้องหลงรักที่นี่แน่นอน เชื่อเรารึยังว่า ต้นไม้เขียวครึ้มขนาดไหน อย่างตอนที่เรามาถึงฝนเพิ่งตกไปหมาดๆ อากาศคือดีมาก สดชื่นมาก ได้กลิ่นต้นใม้
ใบหญ้าลอยมาแตะจมูกเลย ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในโรงแรม

ลูกอินจัน ที่ร่วงหล่นลงมาจากต้นอินจันเก่าแก่อายุ กว่า 200 ปีที่ตั้งตระหง่านมอบความร่มรื่นอยู่ใจกลางโรงแรม

และยังเป็นที่มาของชื่อโรงแรมอีกด้วย แล้วรู้หรือไม่ว่าต้นอินจันนั้น เป็นต้นไม้ต้นเดียวที่สามารถออกผลได้ 2 แบบ คือ
ลูกอิน (กลมๆ ป้อมๆ ขนาดใหญ่) และลูกจัน (แบนๆ แป้นๆ ขนาดเล็ก) จึงมีความเชื่อโบราณที่ว่า เป็นสัญลักษณ์แห่งความรักของคนสองคน ที่ผูกพันหลอมรวมจนเป็นหนึ่งเดียว ทำให้มีคู่รักหลายคู่มักเลือกที่นี่

เป็นสถานที่จัดงานแต่งงาน เพื่อความรักของทั้งคู่จะเป็นหนึ่งเดียวกัน และงอกงามดั่งเช่นต้นอินจัน พนักงาน รร บอกเราว่า ลูกอินจัน กินสดได้เลยนะ พอลองชิมแล้ว ก็มีรสชาติหวานๆ ฝาดๆ หน่อย แต่มีสรรพคุณ ช่วยแก้อาการท้องเสียด้วยนะ

บรรยากาศทางเดินไปห้องพัก มองไปทางไหนก็เจอแต่พื้นที่สีเขียวสดชื่นมากๆ เลิฟมาก

อาคารห้องพักที่นี่จะมีความวินเทจ ให้ความรู้คลาสสิก เข้ากับบรรยากาศความร่มรื่น สงบ เรียบง่าย กลมกลืนกับธรรมชาติของที่นี่เป็นอย่างดี

เราพักในห้อง Deluxe การตกแต่งจะเน้น ไปในแนวทางโมเดิร์น แต่ยังคงความวินเทจ และเรียบง่ายไว้อยู่ในทุกรายละเอียด ทำให้บรรยากาศ ในห้องมีความผ่อนคลาย และยังมีมุมสำหรับ นั่งทำงานอีกด้วย

หากใครต้องการความเป็นส่วนตัว พร้อมสเปซที่มากขึ้น การมาพักที่ห้อง Suite ก็จะตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว เพราะมีห้องนั่งเล่น เพิ่มเข้ามาให้ทุกคนนั่งชิลได้

รวมไปถึงยังมีระเบียงริมสวน ให้เราสามารถมานั่งซึมซับ อากาศบริสุทธิ์ ปล่อยใจไปกับธรรมชาติได้แบบใกล้ชิดสุดๆ

มาถึงที่นี่แล้ว อย่าลืมกินของว่างที่ทางโรงแรม จัดไว้ต้อนรับแขกทุกคนเด็ดขาด เพราะอร่อยมาก ลูกชุบ อินจัน ที่ไม่ได้มีแค่ความคิวท์ เพราะพกพาความอร่อยมาเต็มผลเลย เพื่อนเราถึงขนาด ซื้อเป็นแพ็คกลับไปกินต่อที่กรุงเทพฯ เลยทีเดียว

อากาศดีๆ ในหน้าฝนแบบนี้ ช่วงเย็นก่อนมื้อค่ำ ขอแนะนำให้ออกมาเดินเล่นในสวนของโรงแรมนะ อย่ามัวซุกตัวอยู่แต่ในผ้าห่มห้องพัก เพราะบรรยากาศสวน ชิลมาก ร่มรื่น อากาศเย็น มุมถ่ายรูปเพียบ

มุมท่าน้ำข้างๆ สวน ถ้าฝนไม่ตกแนะนำไปนั่งกินข้าวตรงนี้เลย ฟินแน่นอน บริเวณสวนนี้ยังถูกจับจองเป็นที่จัดงานแต่ง
มาแล้วหลายครั้ง วิวดีขนาดนี้ ใครมีแพลนจะแต่งงาน เราว่าที่นี่เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีมาก และบรรยากาศดี
โรแมนติกมากเช่นกัน

ใครอยากมาชิลๆ เย็นๆ แช่น้ำกลางสวนก็ย่อมได้

บาร์เครื่องดื่มกลางสวนในยามบ่าย แถมด้วยโปรโมชัน Happyhour ลด 50% ที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้บริการ
ทุกคนได้สดชื่นมากยิ่งขึ้น พักผ่อนชิลๆ ในสวนแล้ว ยังได้จิบเครื่องดื่มรสชาติดีไปพร้อมๆ กัน

“ดินเนอร์ริมน้ำ..ให้ฉ่ำปอด” กับหลากเมนูรสเลิศ วัตถุดิบสดๆ ที่นำมาปรุงในรสชาติตะวันตกและรสชาติท้องถิ่น
จากห้องอาหารเปปเปอร์ของโรงแรม อร่อบถูกปาก ไปพร้อมๆ กับวิวธรรมชาติที่ถูกใจ แฮปปี้สุดๆ

จ่ายแค่หลักพันต้นๆ แต่ได้วิวขนาดเนี้ย คุ้มค่าแก่การมาพักผ่อนแบบไม่ไกลกรุงเทพฯ สุดละ

บอกเลยว่าบรรยากาศริมท่าน้ำนั้นชิลจริงๆ ที่นี่ในเช้าวันเสาร์ยังมีกิจกรรมให้เราสามารถตื่นมา ตักบาตรพระที่ท่าน้ำตรงนี้ด้วยนะ จะมีพระสงฆ์พายเรือมา ไหนๆ มาพักผ่อนแล้ว ยังได้สะสมแต้มบุญไปในตัวอีกด้วย

ไลน์อาหาร Breakfast จัดเต็ม หรือใครจะ Breakfast in Bed ที่ห้องก็แจ้งล่วงหน้าได้เลยตั้งแต่ตอนเช็คอิน

เช้าวันที่ 2  กินข้าวเช้าเสร็จแล้ว แนะนำให้ยืมจักรยานที่ทางโรงแรมมีไว้ให้บริการฟรี!( เป็นนโยบายของ​ U​ Hotels&Resortsที่อยากให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีความเป็นอยู่​ของชุมชน​ เพื่อซึมซับประสบการณ์​การท่องเที่ยว​ที่แตกต่างออกไป) ปั่นไปเที่ยวทางรถไฟสายมรณะ ที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว เพราะใกล้มากจริงๆ ใครเคยไปแล้วก็ไปอีกได้ เพราะใกล้อะ ปั่นแปปเดียวถึง ชิลมาก

มุมมหาชน ไม่มีพลาดแน่นอนจ้าใครอยากถ่ายรูปคู่กับรถไฟแบบนี้ สามารถถามรอบเวลาที่รถไฟจะออกวิ่งได้จากพนักงานโรงแรมเลย แล้วค่อยปั่นจักรยานมา จะได้ไม่ต้องมารอเก้อ เสียเที่ยว

เมืองกาญจน์หน้าฝนคือ เย็นชุ่มฉ่ำหัวใจมากไม่ร้อนเลย

ก่อนกลับกรุงเทพฯ ใครเมื่อย ไปนวดที่สปาของทางโรงแรมได้นะ หมอนวดที่นี่กดตรงจุดมาก คลายทุกเส้นบอกเลย

ยืนยันอีกครั้งว่า ถ้าหน้าฝนแบบนี้ใครอยู่กรุงเทพฯ แล้วเฉาวันหยุดสุดสัปดาห์หน้า หนีกรุงออกไปพักกาย พักใจ ที่นี่เลยเชื่อเรา เมืองกาญจน์ คือดีจริงๆ เขียวทั้งเมือง สดชื่นทั้งเมือง หลงรักเลย จากที่เคยมาช่วงหน้าร้อนคือแทบตาย หน้าฝนกินขาดไปเลยจ้า