รีวิว Royal Osha ให้มื้อค่ำของคุณกลายเป็นมื้อสุดหรูหราได้เลยทันที กับระดับมิชลินสตาร์
“ทำไมถึงอยากกินอาหารไทย Fine Diningที่ Royal Osha ในเมื่ออยู่ไทยอยู่แล้ว มองไปทางไหนก็เจอร้านอาหารไทยอร่อยๆ เพียบ?” นี่คือคำถามที่เราถามตัวเองตั้งแต่แรกเหมือนกันว่า “เอ้อ!..ทำไมนะ!”ซึ่งคำตอบที่ทำให้ตัดสินใจได้ก็คือ “เราอยากลิ้มรสอาหารไทยที่ เชฟพิถีพิถันทั้งรสชาติ และพรีเซนต์เทชันหรูๆ สักครั้งในชีวิต” เพราะพอนึกถึง Fine Dining ส่วนใหญ่ก็จะนึกถึงแต่อาหาร ฝรั่งเศสอะเนอะ
สบโอกาสพอดีกับแคมเปญ ‘Wongnai Bangkok Restaurant Week 2019’ เทศกาลที่รวมดีลพิเศษ ของร้านอาหารชั้นนำกว่า 60 ร้านในราคาสุดคุ้มไว้มากมาย ซึ่งร้านอาหารไทยที่เราเลือกไปสัมผัสจากแคมเปญนี้ นั่นก็คือ
Osha ร้านอาหารไทย Modern Fine Dining ระดับมิชลินสตาร์ บน ถนนวิทยุ ที่พอไปถึงแล้วบอกได้คำเดียวเลยว่า อลังการทั้งบรรยากาศ และรสชาติอาหารที่แสนจะประทับใจอร่อยมากจริงๆ ไม่ได้เวอร์พูดเลย
ร้าน Osha เป็นร้านอาหารไทย ที่คว้ารางวัลมากมายทั้งในและต่างประเทศ และยังเป็นร้านสาขามาจากร้านอาหารไทยชื่อดัง Osha ในเมือง San Francisco ที่ USA อีกด้วย ที่นี่เสิร์ฟอาหารไทยแบบ Fine Dining ประณีตและพิถีพิถันสุดๆ
มาถึงปุ๊บเชฟจัดเมนู Complimentary มาให้ชิมก่อนเลยเป็น ยำตะไคร้กุ้งสด ขนาดจิ๋ว เสิร์ฟมาในแป้งกรุบกรอบ
อร่อยแซ่บถึงรสยำเลยล่ะ จิ๋วแต่แจ๋ว
ดีลที่เราใช้ที่ร้านนี้เป็นราคา 1599++ บอกเลยว่าคุ้มมาก เพราะจากราคาเต็มคือ 3พันกว่า ครึ่งๆ อะ มาเริ่มกันที่เมนูแรก เมนู Starter เป็น “Seared Hokkaido Scallop” หอยเชลล์ย่าง กับซัลซ่าปลาเค็ม หอมเคี้ยวหนุบ รสชาติไทยๆ ที่เริ่มคอร์สได้สดชื่นสุดๆ
ถัดมาเป็นเมนูสลัด ที่เชฟจัดเต็มมาทั้งวัตถุดิบ และพรีเซนเทชันเลยก็ว่าได้ กับ “Grilled King River Prawn” แสร้งว่ากุ้งกุ้งแม่น้ำ ของดีจากอยุธา ย่างซอสใบมะกรูด เสิร์ฟเคียงยำตะไคร้สุดแซ่บ รสชาติคือซี๊ดจี๊ดจ๊าดมาก ตัวเนื้อกุ้ง
ก็สดเด้งมีมันกุ้งด้วย ฟินสุด
เมนูซุป “Thai Authentic Herbal Spicy And Sour Soup” ต้มโคล้งปลาเก๋าที่วิธีเสิร์ฟคืออลังการสุดๆ มาแนววิทยาศาสตร์เลยจ้า พนักงานจะนำไฟมาลนตรงเครื่อง แล้วน้ำซุปเมื่อโดนความร้อนจะถูกไล่ขึ้นด้านบน ซึ่งมีเครื่องต่างๆ ของน้ำต้มโคล้งอยู่ จากนั้นก็จะไหลกลับลงมาด้านล่าง ทำให้เราได้ซุปหอมๆ ที่แยกเครื่องต้มโคล้งออกไปไม่ต้องเสียเวลาเขี่ย แล้วนำไปราดบนปลาเก๋า ที่เสิร์ฟพิเศษด้วยการแยกหนังปลาออกแล้วนำไปทอด คือหอมอร่อย เนื้อปลานุ่ม รสชาติต้มโคล้งเข้มสุด เอาไปเลย 10/10
มาถึงที่เมนู Main Course กันแล้ว ทางร้านจะให้เราเลือกสั่งอย่างใดอย่างนึง เมนูแรกจะเป็น “Grilled Seabass” ปลากะพงซอสแกงส้มสะตอ ที่ผ่านการทอดมาแบบกรอบนอกนุ่มใน ซอสแกงส้มก็รสชาติดี มีสะตออยู่ด้านล่างคืออร่อยกลมกล่อมลงตัว อีกเมนูจะเป็น “Australian Wagyu Beef Tenderloin Steak” สเต็กเนื้อวากิวจากออสเตรเลียราสซอสแกงกะหรี่แบบไทยๆ เราสั่งเป็น Medium Rare สุกกึ่งดิบ บอกเลยว่าเนื้อนุ่มหอม อร่อย
กินคู่กับซอสแกงกะหรี่ยิ่งกลมกล่อม เป็นรสสัมผัสที่แปลกใหม่ไปอีกแบบ
ปิดท้ายที่ของหวาน ก็มีให้เลือกถึง 2 เมนูด้วยกัน เมนูแรกคือ “Water Chestnuts” ทับทิมกรอบ อร่อยมาก น้ำกะทิหอมมาก หวานพอดิบพอดี
อีกเมนูคือ “Flour Dumpling Stuffed” ขนมพระพาย ขนมโบราณ ด้านในเป็นถั่ว กินคู่กับข้าวเม่าทอดเคลือบคาราเมล คืออร่อยสุดๆ เป็นเมนูจบคอร์สที่ดี
บรรยากาศหรูหรา เคล้ากลิ่นอายความเป็นไทย
วิจิตรบรรจง
ใครอยากสัมผัสประสบการณ์ในรสชาติของอาหารไทย Fine Dining บอกเลยว่ามาที่ Osha ไม่ผิดหวังแน่นอน
รีวิว Royal Osha พร้อมแพลนไปตามรอยความอร่อยพร้อมแล้ว
ตามรอยที่เที่ยวอื่นๆ ใน กรุงเทพ :
